五台山 , Mount Wutai, The Buddhist Mountains
of Xinzhou, Shanxi, China
ไถซาน
(五台山) หรือ
ภูเขาอู่ไถ
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง
และศูนย์รวมความศรัทธาของพุทธศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศจีน
ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองซินโจว มณฑลซานซี ประเทศจีน
ทั้งนี้ อู่ไถซาน (五台山) หมายถึง ภูเขา 5 ลูกที่ตั้งเรียงรายกันอยู่
โดยยอดภูที่สูงที่สุด มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 3,061 เมตร
และยังเป็น 1 ใน 4 ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์ของประเทศจีน อีกด้วย
(หมายเหตุ
: 4 ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์
เป็นภูเขาที่เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระพุทธเจ้าหรือพระโพธิสัตว์ ตามความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายมหายาน
ประกอบไปด้วย ภูเขาเอ๋อเหมย มณฑลซื่อฉวน
(หรือที่คนไทยอาจคุ้นหูกันในชื่อของภูเขาง๊อไบ๊ มณฑลเสฉวน) , ภูเขาจิ่วหัว มณฑลอันฮุย , ภูเขาผู่ถัวซาน
แห่งมณฑลเจ้อเจียง และภูเขาอู่ไถซาน ที่มณฑลซานซีแห่งนี้)
โดยภูเขาอู่ไถซาน
ซึ่งมีความสูงสุดกว่าระดับน้ำทะเลที่ 3,061 เมตร แห่งนี้ ถือเป็นที่ประทับของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์
ในคติของพระพุทธศาสนามหายาน
ซึ่งในทิเบตที่เป็นส่วนหนึ่งของจีนและเป็นดินแดนแห่งพระพุทธศาสนามหายาน
ถือเป็นพระที่มีผู้นับถือเป็นรองเพียงแต่พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
(หรือเจ้าแม่กวนอิม) เท่านั้น
จากความสำคัญดังกล่าวนี้เอง
ทำให้บนภูเขาอู่ไถซาน
เต็มไปด้วยวัดมากมายหลายแห่งที่สร้างขึ้นเป็นพุทธบูชาจากหลายยุคหลายสมัย
รวมไปถึงวัดของนิกายเต๋าที่รุ่งเรืองขึ้นมาในบางช่วงยุคสมัยและถูกสร้างไว้บนนี้เช่นกัน
ซึ่งจากรูปแบบศิลปะที่แตกต่างกันของวัดทั้งหลาย
ทำให้เขตภูเขาอู่ไถซานและวัดในบริเวณภูเขา ได้รับการยกย่องจาก
UNESCO ให้กลายเป็น มรดกโลก ในปี 2009อู่ไถซาน ภูเขาพุทธศักดิ์สิทธิ์สู่แหล่งมรดกโลกแห่งประเทศจีน
หลักฐานของการสร้างวัดตามความเชื่อของศาสนาพุทธ นิกายมหายานบนภูเขาอู่ไถซาน ปรากฏตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (25 BC – 220 AD) ซึ่งถือเป็น 1 ในวัดพุทธเก่าแก่ของประเทศจีน และมีร่องรอยของการสร้างและปรับปรุงวัดต่างๆที่มีอยู่มาเรื่อยๆ ทั้งในสมัยราชวงศ์เหนือใต้ (386-588 AD), สมัยราชวงศ์ถัง (618 – 907 AD) ซึ่งปรากฏหลักฐานของการสร้างวัดขนาดใหญ่อีกครั้ง และสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644 AD) ที่นอกจากจะมีการสร้างเพิ่มเติมแล้ว ยังมีการบูรณะวัดเดิมที่มีอยู่บนภูเขาอู่ไถซานอีกด้วย
ปัจจุบัน บนภูเขาอู่ไถซานมีวัดอยู่หลายสิบวัด ซึ่งเป็นทั้งวัดของพุทธศาสนาคติมหายานของจีน วัดของพุทธศาสนามหายานของทิเบต รวมถึงวัดของลัทธิเต๋า ซึ่งทำให้ภูเขาอู่ไถซานและวัดภายในภูเขา ได้รับการยกย่องให้กลายเป็น แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม อีกแห่งหนึ่งของประเทศจีน และเป็น สถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A จากการประเมินของรัฐบาลจีน
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในอู่ไถซาน
อู่ไถซานเป็นภูเขาสูงจากระดับน้ำทะเลหลายพันเมตร
ดังนั้น เมื่อนักท่องเที่ยวมาเยือนที่นี่แล้ว
สิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือการเก็บภาพความสวยงามของทิวทัศน์ธรรมชาติของภูเขาสูง
และบรรยากาศรอบๆ หรือหากนักท่องเที่ยวที่ไม่สะดวกในการเดิน สามารถเลือกใช้บริการเคเบิ้ลคาร์ได้
และนอกจากธรรมชาติที่สวยงามแล้ว
แหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่น่าสนใจบนภูเขาอู่ไถซาน
ยังประกอบด้วยวัดและศาสนสถานที่สำคัญอีกหลายแห่ง อาทิ
- วัดเสี่ยนทง (显通寺)
เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในภูเขาอู่ไถซาน
ก่อสร้างเมื่อเกือบ 2,000 ปีที่แล้ว
ถือเป็นวัดพุทธที่เก่าแก่เป็นอันดับที่สองของประเทศจีน (เป็นรองเพียงวัดม้าขาว (白马寺) ของเมืองลั่วหยาง มณฑลเหอหนานเท่านั้น)
และได้รับความสำคัญสืบเนื่องมาหลายราชวงศ์ รวมถึงจากรัฐบาลจีนในปัจจุบัน
ภายในวัดเสี่ยนทง
เต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างอันเป็นสัญลักษณ์ของความศรัทธาในพุทธศาสนา
นิกายมหายานของจีนตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น วิหารอมิตะภะ หรือวิหารอู่เหลียง
(无量殿)
สิ่งปลูกสร้างสองชั้นอันน่าอัศจรรย์ ที่เกิดจากการผสมผสานกันของงานช่างหินและงานก่ออิฐจากสมัยราชวงศ์หมิง, วิหารกวนอิม (观音殿) หรือพระอวโลกิเตศวร
พระโพธิสัตว์ที่ได้รับความนับถือจากชาวจีนมากที่สุด
ซึ่งถูกสร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นต้น
นอกจากนี้
สัญลักษณ์สำคัญที่สุดที่พลาดไม่ได้ที่วัดเสี่ยนทงคือวิหาร, เจดีย์
และระฆังที่ทำจากทองแดง โดยวิหารนั้นสร้างจากทองแดงน้ำหนักรวมหลายพันกิโลกรัม
- วัดถ่าย่วน (塔院寺)
เดิมทีเป็นส่วนหนึ่งของวัดเสี่ยนทง
แต่ในสมัยราชวงศ์หมิง
ได้มีการปรับปรุงและต่อขยายบริเวณนี้เพิ่มเติมจนกลายมาเป็นวัดอีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งภายในวัดถ่าย่วน มีแลนด์มาร์คสำคัญที่เปรียบเสมือน สัญลักษณ์ของภูเขาอู่ไถซาน
คือ เจดีย์ใหญ่สีขาว ซึ่งเป็นเจดีย์ที่มีต้นแบบมาจากเนปาล
(บางตำราระบุว่าเป็นศิลปะทิเบต) สร้างขึ้นสมัยราชวงศ์หมิง
โดยเจดีย์ลักษณะนี้มีอยู่ไม่กี่แห่งในประเทศจีน
- วัดผูซ่าติ่ง 菩萨顶
ผูซ่าติ่ง
เป็นวัดเก่าแก่อีกแห่งหนึ่งบนภูเขาอู่ไถซาน
โดยสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกตั้งแต่สมัยราชวงศ์เหนือใต้ ก่อนจะได้รับการบูรณะต่อเนื่องมานับตั้งแต่สมัยราชวงศ์ถัง,ราชวงศ์หมิง กระทั่งสมัยราชวงศ์ชิง
ได้มีการบูรณะหลังคาของพระอารามหลักให้เป็น สีเหลือง
ซึ่งเป็นสีสำหรับราชวงศ์เท่านั้น วัดผูซ่าติ่งจึงมีฐานะ เทียบเท่ากับพระอารามหลวง
ประกอบกับในสมัยนี้ มีพระลามะทิเบตเข้ามาพำนักอยู่ที่วัดนี้
ผูซ่าติ่ง จึงมีสถานภาพเป็นทั้งวัดพุทธมหายานของจีน และเป็นวิหารลามะทิเบตอีกด้วย
ซึ่งจากภูมิหลังนี้เอง
ทำให้ภายในวัดผูซ่าติ่งเต็มไปด้วยสิ่งปลูกสร้างที่งดงามมากมาย
และเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงของภูเขาอู่ไถซาน
และนอกจากวัดสำคัญๆทั้ง 3
แห่งแล้ว ภายในภูเขาอู่ไถซานยังมีวัดอีกหลายสิบวัด
ตั้งอยู่บนภูเขาที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติสลับกับชุมชนที่ได้รับการพัฒนาจากรัฐบาลจีนเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว
ทำให้การเที่ยวชมภูเขาอู่ไถซานในวันนี้ นอกจากจะได้สัมผัสกับความสวยงามและบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ของศิลปะจากศรัทธาในพุทธศาสนาแล้ว
ยังมีความสะดวกสบายมากกว่าสมัยก่อนอีกด้วย